ข่าวฟุตบอล ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์แรกในฤดูกาล
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์แรกในฤดูกาล ฉลองแชมป์ถ้วยคาราบาว คัพ 2022 อย่างยิ่งใหญ่ เพราะสองสโมสรระดับท๊อปของโลกทีมยักษ์ใหญ่ในเกาะอังกฤษ ที่หลุดเข้ามาชิงชนะเลิศกัน ทีมเชลซี แชมป์ 5 สมัย ปะทะ ทีมลิเวอร์พูล แชมป์ 8 สมัย
ครั้งล่าสุดที่เชลซีคว้าแชมป์ในปี 2015 ล่าสุดของลิเวอร์พูลในปี 2012 หนึ่งทศวรรษก่อนหรือ 10ปีที่แล้ว ที่สำคัญนี่คือการประลองหรือต่อสู้กัน ระหว่างสองโค้ช จากประเทศเยอรมัน บนแผ่นดินอังกฤษ คาราบาว คัพ 2022 ทูเคิล vs คลอปป์
ชิงถ้วยที่มีผู้สนับสนุนเป็นสินค้าของคนไทย ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ถ้วยนี้ที่โค้ชชาติเดียวกันมาชิงกันเองเกมนี้...เรื่องของการจัดตัวน่าสนใจ ทูเคิล จัดระบบ 3-4-2-1 ไม่เลือก เกปา ที่เล่นถ้วยนี้ทุกเกม เขาเลือก เมนดี
เพราะมันคือนัดชิงชนะเลิศ และไว้ใจมากกว่า สามเซนเตอร์เป็น ชาโลบาห์ ที่ยืนทางขวา ติอาโก และ รือดิเกอร์ ส่วนวิงแบกเน้น ประสบการณ์เพราะ รีส เจมส์ ยังไม่พร้อม มีชื่อสำรอง อัสปิลิกวยต้า ลงกับ อลอนโซน แดนกลาง โควาสิชกับ ก็องเต้ ส่วนตัวทำ พูลิสิช, เมานต์ และ ฮาแวร์ตส์
คลอปป์ ยึดมั่นกับ 4-3-3 เขายังคงให้ความไว้วางใจ เคลละเฮอร์ เฝ้าเสาเพราะเล่นถ้วยนี้ประจำ แบ๊กโฟร์ชุดใหญ่ เทร้นต์, มาติป, ฟาจไดจ์, รอบโบ แดนกลาง เกอิต้า แทน ติอาโก ที่มีชื่อแต่ตอนวอร์มดันเจ็บโชคร้ายอดเล่นนัดชิง ส่วน เฮนโด, ฟาบินโญ ตัวทำก็ ซาลาห์, มาเน และดิอาส
ลิเวอร์พูลชนะดวลจุดโทษอย่างน่าทึ่งเพื่อรักษาถ้วยรางวัลในประเทศถ้วยแรกของฤดูกาลหลังจากเกมคาราบาวคัพนัดชิงชนะเลิศกับเชลซีที่เวมบลีย์ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า เข้ามาในช่วงปิดเวลาพิเศษในฐานะผู้เชี่ยวชาญจุดโทษ พลาดจุดชี้ขาดอย่างเด็ดขาด
หลังจากเกมที่ยอดเยี่ยมจบลงด้วยการดวลกันระหว่างผู้รักษาประตูของเชลซีและควิวีน เคลเลเฮอร์ คู่หูของลิเวอร์พูล เคลเลเฮอร์ได้จุดโทษ 11 ครั้งจาก 11 ครั้งให้กับลิเวอร์พูล แต่เกปาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากผลงานชั้นสูงได้รับการตัดสินด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีที่สุดหลังจากพยายามทำสำเร็จ 21 ครั้ง
เฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งผู้รักษาประตู โธมัส ทูเคิ่ล ตัดสินใจให้ เอดูอาร์ เมนดี้ ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงแทนที่ 'เกปา' ที่ลงเล่นในรายการนี้มาตลอด เพราะต้องการความแน่นอนกว่าในเกมสำคัญระดับนัดชิงฯ
ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยึดมั่นในตัวนายทวารมือ 2 อย่าง ควิวีน เคลเลเฮอร์ ที่ลงเฝ้าเสาในถ้วยนี้มาตลอด โดยไม่เกรงกลัวว่าเด็กมันอาจจะกดดันจนผิดพลาด นอกนั้นล้วนเป็นตัวหลักที่ดีที่สุดของทั้ง 2 ทีม
แต่ดันเจ็บตอนวอร์มอัพก่อนแข่งจนต้องให้ นาบี เกอิต้า ลงแทน ขณะที่ 3 ตัวบนส่งจรวดทางเรียบอย่าง โม ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่ และลุยส์ ดิอาซ ลงพร้อมกัน ระดับคุณภาพของผู้เล่นถือว่าไล่เลี่ยกันไม่ต่างกันกันมากนัก
ก่อนการดวลศึกแห่งศักดิ์ศรี ชิงแชมป์ถ้วยนี้ ลิเวอร์พูลน่าจะครองบอลบุกได้มากกว่า เพราะเชลซี จะมาเน้นเกมรัดกุม รอหาจังหวะพลาดแล้วจู่โจมสวนกลับอย่างฉาบฉวย แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อทีมสิงโตน้ำเงินเดินหน้าเข้าหาแย่งชิงจังหวะบดบี้เร็วทันทีจนเกือบขึ้นนำก่อน
กระทั่ง 20 นาทีแรกผ่านไปนั่นแหละ ลิเวอร์พูล ถึงเริ่มตั้งหลักได้แบบจริงๆ จังๆ โดยคอนโทรลควบคุมเกมได้มากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ บุกกระหน่ำใส่เป็นชุดๆ จนเกือบได้ประตูขึ้นนำเช่นกัน ก่อนจะถอนคันเร่งในช่วงท้ายครึ่งแรก
เชลซี เล่นเกมรับได้ดี ไม่พลาดง่ายๆ แถมนายทวารอย่าง เมนดี้ ก็ช่วยได้เยอะเหมือนบอกว่าการตัดสินใจเปลี่ยนผู้รักษาประตูของ โธมัส ทูเคิ่ล เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ครึ่งหลังก็คล้ายๆ กับครึ่งแรกคือ เชลซี เริ่มต้นได้ดีกว่า อีกทั้งยังเกือบขึ้นนำจากจังหวะหลุดเดี่ยวไปยิงของ เมสัน เมาต์
น่าเสียดายที่บอลมันติดเท้าไปหน่อยจึงยิงบอลได้ไม่ถนัด บอลพุ่งไปชนเสา หลังผ่านไปประมาณ 60 นาที ลิเวอร์พูล ถึงคุมเกมได้มากขึ้น และบุกได้มากกว่าจนในที่สุดก็พังประตูได้สำเร็จจากจังหวะเล่นลูกตั้งเตะอันเป็นทีเด็ดของตัวเอง
ความโชคดีของ เชลซีที่ VAR จับได้ว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปเหนี่ยวดึงผู้เล่นของ เชลซี - ประตูที่ โฌแอล มาติ๊ป โขกเข้าไปตุงตาข่ายจึงถูกยึดคืน ภาพรวมของเกมคือต่างฝ่ายต่างทำในสิ่งที่ตนเองถนัดเป็นเกมการแข่งขันที่สนุกสนานมาก
ลิเวอร์พูล เพรสซิ่งเข้าแย่งบอล แล้วบุกกดดันได้มากกว่า ขณะที่ เชลซี เน้นเกมรัดกุม รอโอกาสอย่างใจเย็นพลางตลบหลังในจังหวะที่แผงหลังหงส์แดงดันขึ้นมาสูงได้แม่นยำเลยทีเดียว
ทั้งคู่ห้ำหั่นกันอย่างถึงใจพระเดชพระคุณ ผลัดกันรุกผลัดกันรับจนมีโอกาสได้ประตูด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่นายทวารของทั้ง 2 ทีมนี่แหละคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทีมตัวเองรอดพ้นจากการเสียประตู ส่งผลให้เกมยืดเยื้อจนต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ทีนี้มาว่ากันถึงแท็คติกในการดวลจุดโทษที่ผมมองว่าในฟุตบอลสมัยใหม่ มันไม่ได้ 50-50 หรือขึ้นอยู่กับดวง เพราะมันตัดสินกันด้วยการฝึกซ้อมจนเกิดความมั่นใจ การวางลำดับการยิงของผู้เล่น และการศึกษาวิธีการยิงจุดโทษของทีมคู่แข่งด้วย
ก่อนครบ 120 นาที กุนซือของ เชลซี จึงส่ง 'เกปา' ลงมาแทน 'เมนดี้' เพื่อดวลจุดโทษโดยเฉพาะ เนื่องจากนายประตูชาวสเปนผู้นี้ฝึกซ้อมการป้องกันจุดโทษมาอย่างช่ำชอง แถมน่าจะศึกษาวิธีการยิงจุดโทษของคู่แข่งมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
"เจอร์เก้น คล็อปป์ "ผู้จัดการทีมกล่าวอย่างชัดเจนทันทีที่ลิเวอร์พูลมาถึงเวมบลีย์ว่า เคลเลเฮอร์ จะรักษาตำแหน่งของเขาในฐานะผู้รักษาประตูของหงส์แดงในการแข่งขันครั้งนี้ ก่อนอลิสสันตัวเลือกแรก
มันเป็นการตัดสินใจที่มีองค์ประกอบของความเสี่ยง แต่นักเตะวัย 23 ปีตอบแทน Klopp ด้วยผลงานที่สมบูรณ์ซึ่งรวมถึงการทำประตูที่ 11 และจุดโทษสุดท้ายของ Liverpool นี่เป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ของการแสดงที่มั่นใจ
ได้อย่างน่าทึ่งซึ่งเริ่มต้นด้วยการเซฟต้นสำคัญจาก Christian Pulisic และเห็นว่าเขาปฏิเสธเชลซีเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายด้วยการบล็อกใกล้โพสต์จาก Romelu Lukaku ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เคลเลเฮอร์ เรียบเรียงในทุกแง่มุมของเกมในขณะที่เขาครองพื้นที่และจัดการทุกอย่างที่เข้ามา เป็นการตอกย้ำชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของเขาในฐานะผู้รักษาประตูที่มีคำสัญญาสูงลิเวอร์พูลต้องทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าถ้วยรางวัลนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012
Klopp ถูกบังคับให้ต้องสับเปลี่ยนสายหลังจาก Thiago Alcantara ได้รับบาดเจ็บจากการวอร์มอัพซึ่งร่างใน Naby Keita เพื่อทดแทนสาย ลิเวอร์พูลเกือบพลาดโอกาสกับเชลซี เนื่องจากทั้งสองทีมปฏิเสธที่จะถอยหลัง และถูกต้องแล้วที่จุดโทษเท่านั้นที่จะแยกกันหลังจากเกมเวมบลีย์อันโดดเด่น
เมาท์เสียดายโอกาสการทำประตูของเขา หลังจากนัดชิงชนะเลิศ EFL Cup ครั้งนี้ หลังจากพลาดโอกาสอันรุ่งโรจน์ถึง 2 ครั้งใน ครึ่งแรกซึ่งอาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นจุดสำคัญ อย่างใดเขาหันหลังให้กว้างโดยมีเป้าหมายด้วยความเจตนาของเขาก่อนช่วงเวลานั้นด้วยเวลาและพื้นที่เหลือเฟือ เข้าเส้นชัยกับเสาโดย Kelleher เปิดเผยไม่ดี
ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกมนี้ได้รับการตัดสินแล้ว แม้ว่าเชลซีจะมองย้อนกลับไปถึงการตัดสินล้ำหน้าโดยมองว่าลูกากูเป็นตัวสำรองทำประตูไม่ได้ ผู้จัดการทีม เชลซี โธมัส ทูเคิ่ล ได้ตัดสินใจที่คิดเอาไว้ เมื่อเขาส่ง"เกปา"เข้ามาในช่วงเวลาสุดท้ายด้วยความหวังว่าเขาจะรักษาชื่อเสียงของเขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านจุดโทษ
แต่เขาไม่สามารถหยุด 11 จุดโทษ จากลิเวอร์พูลก่อนที่จะส่งความพยายามของตัวเองขึ้นไปสูงอย่างน่าหวาดเสียว เฉลิมฉลองผู้สนับสนุนเบื้องหลังเป้าหมายของ Kelleher ทูเคิ่ล อาจสงสัยว่าเขาควรรักษา Mendy ที่ไม่มีใครเอาชนะได้สำหรับจุดโทษหรือไม่หลังจากการแสดงอันกล้าหาญของเขา
แต่มันก็ง่ายที่จะฉลาดหลังจากเหตุการณ์และ Kepa ได้พิสูจน์คุณภาพของเขาจากจุดโทษในอดีต ไม่มีอะไรจะบ่นเกี่ยวกับคุณภาพและความพยายามในผลงานของเชลซี นอกจากความล้มเหลวในการคว้าโอกาสที่เข้ามา
พวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในสโมสรชั้นนำของพรีเมียร์ลีก ร่วมกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และไม่มีใครปฏิเสธโอกาสในการชดใช้สำหรับความผิดหวังนี้ด้วยการคว้าถ้วยรางวัลชิ้นใหม่ในฤดูกาลนี้
เชลซี กดดันมากกว่า เพราะยิงทีหลังจึงได้แต่ยิงเพื่อเสมอก็ยังนิ่งพอที่จะไม่พลาดเลย แสดงให้เห็นว่าเตรียมตัวด้วยการซ้อมกันมาเป็นอย่างดี แต่บ่อยครั้งที่เกมลูกหนังมันก็จบลงแบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อนายทวารที่ลงมาเพื่อเซฟจุดโทษโดยเฉพาะอย่าง 'เกปา' ดันป้องกันลูกไม่ให้เข้าประตูไม่ได้เลยสักครั้ง แถมไม่ใกล้เคียงด้วย เพราะพุ่งผิดทางเกือบทุกลูก...ซะอย่างนั้น เพราะเมื่อถึงคิวตัวเองสังหารจุดโทษแบบชี้เป็นชี้ตายกลับถูกความกดดันเล่นงานจนเสียสมาธิ
เตะลูกบอลข้ามคานลอยทะลุออกไปไม่เข้ากรอบซะอย่างนั้นอย่างน่าผิดหวัง ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์แรกในฤดูกาลนี้อย่าง คาราบาว คัพ มาครองได้สำเร็จ หลังเอาชนะ เชลซี จากการดวลจุดโทษ ด้วยสกอร์ 11-10